Online Shopping คำตอบที่นักธุรกิจจับตามอง👀 การซื้อสินค้าออนไลน์ (Online Shopping) ปัจจุบันกลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้น เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อเสื้อผ้าและสินค้าต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชันโดยไม่ต้องออกจากบ้าน ซึ่งสินค้าจะถูกจัดส่งถึงมืออย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน จากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการสำรวจและจัดทำ “ดัชนีความพึงพอใจผู้ซื้อสินค้าออนไลน์” ขึ้นมาใหม่ พบว่าในปี 2567 ที่ผ่านมานั้น ผู้บริโภคมีดัชนีดังกล่าวอยู่ในระดับพอใจมาก และดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอด ทำให้เห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความรู้สึกเชิงบวกกับการซื้อสินค้าออนไลน์ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เสื้อผ้าออนไลน์: ตัวเลือกของนักช้อป 📍 จากข้อมูลสำรวจของ Crowdster ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มที่ใช้สำหรับตอบแบบสอบถามและแลกเปลี่ยนความเห็น พบว่า 84.9% ของผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ประเภทเสื้อผ้าและแฟชั่น เป็นสินค้าหลัก ส่งผลให้ตลาดนี้มีการแข่งขันสูงขึ้น ราคาสินค้าลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับอดีต 📍 แพลตฟอร์ม Online Shopping หรือ E-commerce ต่าง ๆ จึงต้องออกโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า เช่น 9.9 Mega Sale, Mid Month Sale, Flash Sale เป็นต้น อีกทั้งระบบขนส่งที่รวดเร็วช่วยให้ตลาดนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z: แนวโน้มของอนาคต✨…
ธุรกิจ Food Delivery ในไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยเฉพาะการ สั่งอาหารออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพราะความสะดวกสบายหรือผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาด ทำให้แพลตฟอร์มอย่าง Grabfood, Lineman, และ Foodpanda กลายเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีและข้อมูล (Data Analytics) ในอุตสาหกรรม Food Delivery ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าและวางกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการออกโปรโมชั่น การปรับราคา หรือการเลือกทำเลที่เหมาะสมสำหรับร้านค้า นี่เป็นโอกาสสำคัญสำหรับ ร้านอาหารและผู้ประกอบการ ที่ต้องการเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า สำหรับผู้ที่ต้องการ เข้าใจตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคในอุตสาหกรรม Food Delivery อย่างลึกซึ้ง สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและรับคำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ได้ที่ Crowdabout ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยตลาดและวิเคราะห์ข้อมูลที่สามารถช่วยธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง สถิติ Food Delivery: แพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยม Crowdabout ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคเกี่ยวกับ Food Delivery Platform ในกลุ่ม Gen Z และ Gen Y (อายุ 18 –…
ลูกค้าของเราคือแพทย์ที่มีความต้องการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวออร์แกนิก โดยผลิตภัณฑ์แรกที่ต้องการผลิตออกมาจำหน่ายคือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเมล็ดองุ่นหรือ Grape Seed เป็นส่วนประกอบหลัก เนื่องจากเมล็ดองุ่นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีสรรพคุณในการรักษาความชุ่มชื้นของผิวและปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ Challenges ผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าต้องการผลิตคือ ออยล์เซรั่ม ที่มีราคาประมาณ 1,500 บาทขึ้นไป เนื่องจากลูกค้าต้องการให้แบรนด์เป็นสินค้าที่อยู่ในระดับพรีเมี่ยมและสามารถแข่งขันกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเคาน์เตอร์แบรนด์ที่มีอยู่ในตลาดได้ ลูกค้าต้องการที่จะทราบความเป็นไปได้ทางธุรกิจ รายละเอียดของกลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนถึงมุมมองของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจริงเมื่อทำการผลิตและจัดจำหน่ายออกไป Process Framework เริ่มต้นจากการศึกษาสภาวะการแข่งขันของตลาด โดยศึกษาคู่แข่งทางการตลาดทั้งทางตรงและทางอ้อมในมุมมองของลูกค้า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ส่งมอบคุณค่าเดียวกันหรือคล้ายคลึงกันกับผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าของเราต้องการผลิต เช่น มีความออร์แกนิก ราคาใกล้เคียงกัน มีสรรพคุณในการรักษาความชุ่มชื้นของผิว มีส่วนประกอบที่มีคุณสมบัติปรับสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอได้เช่นเดียวกันกับเมล็ดองุ่น เป็นต้น และทำความเข้าใจความแตกต่างรวมถึงข้อดี-ข้อเสียของผลิตภัณฑ์ในแต่ละแบรนด์ ขั้นตอนต่อมาคือ การตั้งสมมติฐานว่าลูกค้ากลุ่มใดที่มีแนวโน้มสนใจซื้อผลิตภัณฑ์เป็นกลุ่มแรก (Target customer) และลูกค้ากลุ่มนั้นมีลักษณะหรือตัวตนของลูกค้า (Persona) เป็นอย่างไร โดยในกรณีศึกษานี้มีการตั้งสมมุติฐานว่าลูกค้าเป้าหมายคือ เพศหญิงในกลุ่ม Gen Y ถึง Gen Z ที่มีอายุระหว่าง 18 – 40 ปี อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และมีรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป ขั้นตอนสุดท้ายคือ ศึกษามุมมองของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายผ่านการใช้แบบสอบถามในเรื่องต่าง…
ลูกค้าของเราเป็นผู้ผลิตสกินแคร์ในประเทศไทย ต้องการที่จะขยายการผลิตไปสู่สกินแคร์ที่มีนํ้ามันกัญชงเป็นส่วนประกอบ กัญชงมีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือต่อต้านอนุมูลอิสระและป้องกันการอักเสบของผิว นอกจากนี้ยังให้ความชุ่มชื้นกับผิวและอาจช่วยลดการเกิดของสิวได้ ด้วยคุณสมบัติของกัญชงในข้างต้นทำให้ลูกค้าของเรามีความสนใจผลิตสกินแคร์ที่มีน้ำมันกัญชงเป็นส่วนประกอบสำคัญ Challenges ลูกค้าต้องการทราบถึงความเป็นไปได้ของธุรกิจหากจะเพิ่มสายผลิตในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีน้ำมันกัญชงเป็นส่วนประกอบ และต้องการทราบลักษณะของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของผลิตภัณฑ์นี้ (Target Persona) รวมถึงวิธีสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำไปใช้ในการทำการตลาดต่อไป Process Framework เริ่มต้นจากการตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ในส่วนของเพศ อายุ รายได้ และจังหวัดที่อยู่อาศัย เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน และศึกษาเพื่อหาผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุดผ่านแบบสอบถาม ขั้นตอนต่อไปคือการเก็บข้อมูลจากกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายว่า สนใจสกินแคร์รูปแบบใดรวมถึงความคิดเห็นต่อผลิตภัณฑ์แต่ละรูปแบบ เพื่อจะได้ทราบว่าควรเริ่มทำสกินแคร์ที่มีส่วนประกอบสำคัญเป็นน้ำมันกัญชงในรูปแบบใด สุดท้ายคือการหาความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายว่าต้องการการสื่อสารในรูปแบบใด ต้องการให้แบรนด์มีภาพลักษณ์แบบใด ตลอดจนราคาที่กลุ่มเป้าหมายคิดว่าเหมาะสม จากการศึกษาทั้งหมดจะทำให้ทราบถึงรูปแบบและการสื่อสารที่เหมาะสมของสกินแคร์ที่มีส่วนประกอบสำคัญเป็น นํ้ามันกัญชง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรูปแบบผลิตภัณฑ์ รูปแบบการสื่อสาร ภาพลักษณ์ของแบรนด์ ราคาที่เหมาะสมในการเข้าสู่ตลาด เพื่อให้สามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุดที่สุด Methodology Quantitative Research เก็บข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นเพศหญิงและกลุ่ม LGBTQ+ อายุ 18-35 ปีที่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อศึกษาทัศนคติและมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อสกินแคร์ที่มีกัญชงเป็นส่วนประกอบหลัก ว่าสนใจผลิตภัณฑ์ในรูปแบบใดมากที่สุด ราคาที่เหมาะสมในการเข้าสู่ตลาดไปจนถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายคาดหวังว่าจะได้เห็น นำไปสู่การสื่อสารและการกำหนดทิศทางแบรนด์อย่างเหมาะสมและตรงจุด Results ข้อสรุปของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีน้ำมันกัญชงเป็นส่วนประกอบหลัก ประเภทของผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากที่สุด รวมถึงความคิดเห็นของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายต่อผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท คำแนะนำในการนำเสนอคุณค่าของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจผู้บริโภคและมีความเหมาะสม ราคาที่เหมาะสมของผลิตภัณฑ์ในการจัดจำหน่ายออกสู่ตลาด อยากได้คำแนะนำ กลยุทธ์ หรือทีมช่วยวิเคราะห์ปัญหาหาทางแก้ไขเพื่อต่อยอดพัฒนาธุรกิจของคุณ LINE…
ในปัจจุบันตลาดสินค้าผู้สูงอายุกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในหลากหลายกลุ่มสินค้า โดย Crowdabout สามารถจำแนกไว้ได้ 3 กลุ่มคือ สินค้ากลุ่มอุปกรณ์ติดตามผู้สูงอายุ สินค้ากลุ่มอาหารสำหรับผู้สูงอายุ และสินค้ากลุ่มสกินแคร์สำหรับผู้สูงอายุ โดยสินค้าในตลาดผู้สูงอายุส่วนมากมักถูกออกแบบและผลิตมาให้ถูกใจกับกลุ่มลูกหลานที่เป็นผู้ดูแลและตัดสินใจซื้อสินค้าต่าง ๆ ในตลาดผู้สูงอายุเป็นหลัก ความกังวลที่รองลงมาจากอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุของกลุ่มลูกหลานคือ การได้รับสารอาหารต่างๆไม่เพียงพอต่อร่างกายของผู้สูงอายุ ทำให้สินค้าผู้สูงอายุในกลุ่มอาหารสำหรับผู้สูงอายุ และ สกินแคร์สำหรับผู้สูงอายุ ถือเป็นอีกกลุ่มที่มีความต้องการในตลาดมากไม่แพ้กัน อาหารสำหรับผู้สูงอายุ ปัญหาหลักในเรื่องการกินของกลุ่มผู้สูงอายุ มีทั้งหมด 3 ปัญหา ได้แก่ 1. ภาวะขาดสารอาหาร ประมาณ 20% – 60% ของผู้สูงอายุมีภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ผลข้างเคียงจากอาการกินข้าวไม่ลงและภาวะกลืนลำบาก ปัญหาทางช่องปากทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารได้มากเท่าที่ควร หรือภาวะเครียดและซึมเศร้า เป็นต้น ซึ่งภาวะขาดสารอาหารนั้นมักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุที่พักอยู่ที่บ้านพักคนชรา เนื่องจากผู้สูงอายุไม่มีโอกาสได้เลือกอาหารเอง และเมนูอาหารในบ้านพักคนชราไม่ค่อยมีความหลากหลาย นำไปสู่อาการเบื่ออาหารและภาวะขาดสารอาหารในที่สุด ซึ่งผลข้างเคียงของภาวะขาดสารอาหาร ได้แก่ มวลกล้ามเนื้อลดลง โรคกระดูกพรุนซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้กระดูกหักหลังจากการหกล้ม ภูมิคุ้มกันบกพร่องนำไปสู่การติดเชื้อได้ง่ายและแผลหายช้า เป็นต้น 2. ภาวะกลืนลำบาก ประมาณ 10% – 40%…
การศึกษาตลาด “ธุรกิจบ้านพักคนชรา” และ “ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ” ในประเทศไทยและต่างประเทศ พบว่าแนวโน้มตลาดผู้สูงอายุเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง เช่น บ้านพักผู้สูงอายุ หรือ Retirement Community กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความสนใจจากเจ้าของธุรกิจและลูกค้าของ Crowdabout เจาะลึก 3 กลุ่ม “ธุรกิจบ้านพักคนชรา” จากพฤติกรรม ผู้สูงอายุ เพื่อการวางแผนกลยุทธ์และการตลาดที่ตรงเป้าหมาย “ธุรกิจบ้านพักคนชรา” และ “ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ” ธุรกิจควรทำความเข้าใจความแตกต่างของผู้สูงอายุที่สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ซึ่งมีพฤติกรรมและความต้องการที่แตกต่างกันแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มผู้สูงอายุ ติดสังคม (สามารถดูแลตัวเองได้ดี) ผู้สูงอายุกลุ่มนี้สามารถดูแลตัวเองได้ดี มีสุขภาพที่แข็งแรง และชื่นชอบการเข้าสังคม ตัวอย่างบริการที่เหมาะสมคือกิจกรรมพบปะ การท่องเที่ยว หรือ Social Media ที่ช่วยเชื่อมโยงกับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้ 2. กลุ่มผู้สูงอายุ ติดบ้าน (ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง) กลุ่มนี้ต้องการความช่วยเหลือในบางส่วน เช่น การเคลื่อนไหวที่ลำบาก บริการที่ตอบโจทย์อาจเป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือ เช่น เก้าอี้พยุงเดิน อุปกรณ์สื่อสาร…