จากความสำเร็จของ dating personality test by crowdster ที่ได้รับความนิยมและเป็นกระแสในช่วงเดือนที่ผ่านมา เราจึงจะพาทุกท่านไปเจาะลึกกับเบื้องหลังการทำงานของ dating personality test ที่มีผู้เข้าเล่นกว่า 600,000 ครั้งในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ โดยในบทความนี้เราจะเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างแบบทดสอบ ขั้นตอนการทำงาน ไปจนถึงปัญหาและอุปสรรคที่ทีมต้องเผชิญในระหว่างการจัดทำแคมเปญนี้
Get to know about crowdster : ทำความรู้จักกับ Crowdster ให้มากขึ้น
ผู้เขียนเชื่อว่าหลายท่านในที่นี้ยังคงสงสัยว่า Crowdster คืออะไรและมีความเกี่ยวข้องกับ Crowdabout อย่างไรบ้าง ดังนั้นเราจึงอยากอธิบายถึงธุรกิจทั้งสองสักเล็กน้อยเพื่อให้ผู้อ่านมีความเข้าใจและสามารถอ่านเรื่องราวได้อย่างสนุกมากขึ้น
Crowdabout เป็นธุรกิจให้บริการที่ปรึกษาและวิจัยตลาด (Business Consulting and Market Research) ซึ่งใช้การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven) มาใช้ในการให้คำปรึกษากับลูกค้า โดย Crowdabout ให้บริการลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเน้นไปที่การให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ (Healthcare) และผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค (Consumer Products) เป็นหลัก
และจากการที่ Crowdabout ใช้ Data-driven มาใช้ในการให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า ทำให้ Crowdster จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่เข้ามาช่วยให้ Crowdabout สามารถเก็บข้อมูลได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น โดย Crowdster เป็นแพลตฟอร์มที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อ Crowdabout กับผู้บริโภคหลายแสนคนทั่วประเทศ ให้ผู้บริโภคเข้ามาให้ความคิดเห็นในแง่มุมต่างๆ รวมถึงความเห็นต่อแบรนด์ สินค้า และบริการ เพื่อที่ Crowdabout จะนำเอาความคิดเห็นเหล่านั้นมาประมวลผล และผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการให้คำปรึกษาลูกค้า
How our journey begin : จุดเริ่มต้นของ Dating Personality Test
จุดเริ่มต้นของการทำแบบทดสอบนี้มาจากไอเดียของทีมที่อยากจัดกิจกรรมสนุกๆ ให้กับสมาชิก Crowdster เพื่อให้สมาชิกได้รู้สึกถึงความเป็น community โดยรูปแบบของกิจกรรมที่เราคิดจะจัดได้แก่ กิจกรรมคอนเสิร์ต กิจกรรมมีตติ้งในหัวข้อต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และไอเดียอื่น ๆ อีกมากมาย โดยหนึ่งในแนวคิดคือการจัดกิจกรรมหาคู่ หรือ Speed dating
กับอีกแนวคิดหนึ่งที่เราต้องการสร้างประโยชน์เพิ่มเติมจากการตอบแบบสอบถามที่นอกเหนือจากการได้คะแนน หรือรางวัล คือการให้สมาชิก Crowdster รู้จักตัวตนของตัวเองมากขึ้นผ่านแบบสอบถาม
ไอเดียของการทำ Love personality test เพื่อให้สมาชิกรู้จักตัวตนในด้านของความรักของตนจึงเกิดขึ้น
Working Process : จากไอเดียสู่แบบทดสอบบุคลิกภาพด้านความรัก
หลังจากที่ผู้อ่านได้ทำความรู้จักกับ Crowdster และจุดเริ่มต้นของไอเดีย Dating Personality Test กันไปแล้ว ผู้เขียนจะมาเจาะลึกและอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเบื้องหลังการทำงานของทีมตั้งแต่การออกแบบผลลัพธ์ของแบบทดสอบไปจนถึงปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านได้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของแคมเปญที่ประสบความสำเร็จนี้
Stage 1 : ออกแบบผลลัพธ์ที่โดนใจ
เราเริ่มต้นจากการคิดหน้าตาผลลัพธ์ที่จะแสดงในตอนสุดท้ายก่อน โดยเราได้ไอเดียว่าจะใช้สัตว์ต่าง ๆ เพื่อสื่อถึงบุคลิกภาพของคนแต่ละแบบ จากนั้นเราจึงเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความแตกต่างในด้านบุคลิกภาพของคนในแง่มุมของความรัก และเลือก charactor ของสัตว์ที่คล้ายคลึงกับบุคลิกภาพนั้นมาสื่อสาร
Stage 2 : ถอดรหัสคำถามที่น่าสนใจของแบบทดสอบบุคลิกภาพ
เรานำเอาแนวคิดจากแบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 แบบ (MBTI) มาเป็นแนวคิดพื้นฐานสำหรับแบบทดสอบของเรา โดยแบ่งหมวดหมู่เรื่องความสัมพันธ์ออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ Relationship style, Communication Style, Trustworthiness และ Power dynamic และตั้งคำถามสำหรับความสัมพันธ์แต่ละด้าน โดยลักษณะของพฤติกรรมในแต่ละด้าน จะถูกแปลผลออกมาเป็นคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันไปทั้งหมด 16 รูปแบบ ซึ่งรายละเอียดของความสัมพันธ์แต่ละด้านสามารถอธิบายได้ดังนี้
- Relationship style : รูปแบบของความสัมพันธ์ว่าคุณเป็นคนที่รักอิสระหรือชอบความผูกพันธ์
- Communication Style : ลักษณะการสื่อสารของคุณกับคนรักว่าคุณมักจะสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา หรือคุณเลือกที่จะเป็นคนหลีกเลี่ยงบทสนทนาและไม่ค่อยอยากเริ่มบทสทนากับใครก่อน
- Trustworthiness : ส่วนนี้จะทำให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่เชื่อถือได้ทั้งการกระทำและคำพูดได้มากน้อยเพียงใด
- Power dynamic : ส่วนสุดท้ายคือเรื่องของความเป็นผู้นำและผู้ตามในความสัมพันธ์อย่างไรบ้าง
ความสัมพันธ์ทั้ง 4 ด้านนี้จะแสดงถึงบุคลิกภาพและลักษณะของคนที่เหมาะกับผู้ทำแบบทดสอบ โดยแต่ละด้านจะมีผลต่อความสัมพันธ์ทั้งในเรื่องของการสื่อสาร การตัดสินใจในความสัมพันธ์ และรูปแบบความสัมพันธ์ที่ชอบ
Stage 3 : อุปสรรคและปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำงาน
เดิมเราได้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีคนเข้ามาทำแบบทดสอบ 10,000 ครั้งต่อวัน เราจึงเตรียมฐานข้อมูล และระบบไว้รองรับผู้ใช้งานประมาณ 20,000 คน แต่ผลตอบรับกลับดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งแบบทดสอบดังกล่าวมีผู้ใช้งานกว่า 600,000 ครั้ง ภายในระยะเวลาเพียง 5 วันเท่านั้น ทำให้ระบบและแผนที่เราวางไว้ต้องมีการปรับเปลี่ยน ทั้งในแง่ของการจัดการกับผู้ใช้งานที่เข้ามาเพิ่มขึ้นและระบบที่ใช้ในการทำแบบสอบถาม
โดยช่องทางหลักที่เราออกแบบมาใช้ในการสื่อสารคือ LineOA เนื่องจากเราคาดว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่น่าจะเป็นสมาชิกปัจจุบันของ Crowdster ที่มี Line ของเราอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการ share ทำให้ต้องเพิ่มช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ได้แก่ twitter และ instragram เพื่อให้สามารถสื่อสารกับกลุ่มผู้ใช้งานได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น
นอกจากนี้ปัญหาในเรื่องของการที่มีผู้เข้าใช้งานแบบทดสอบจำนวนมาก ทำให้เครื่องมือที่เราใช้ทำแบบทดสอบเดิมไม่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเราได้พยายามหาเครื่องมือที่สามารถนำมาทดแทนกับเครื่องมือเดิมที่เรามีโดยคำนึงถึงต้นทุนและความคุ้มค่าของการใช้งานเป็นหลัก ซึ่งเราสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้จากการใช้ framework ด้านธุรกิจประกอบกับการที่เราสื่อสารในช่องทางต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยเราได้ศึกษารายละเอียดและพฤติกรรมของผู้ใช้งานในแต่ละช่องทางจากนั้นจึงคิด message และลักษณะการสื่อสารให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ใช้งานในแต่ละช่องทาง ทำให้เราสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวไปได้เป็นอย่างดี
Stage 4 : บทสรุปของแบบทดสอบ
Crowdster ประสบความสำเร็จในการจัดทำแคมเปญ Dating Personality Test ทำให้ในปัจจุบันมีผู้เข้าเล่นแบบทดสอบมากกว่า 800,000 ครั้ง นอกจากนี้ยังทำให้เกิด Awareness ต่อแบรนด์และถูกกล่าวถึงเป็นจำนวนมากในโลกออนไลน์ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของ Crowdster ที่สามารถสร้างยอด Engagemant ได้โดยใช้ความ Viral และ FOMO (Fear of missing) หรือความกลัวตกกระแสของผู้บริโภครุ่นใหม่ นอกจากยอดผู้เข้าใช้งานจำนวนมากแล้ว ยังมีคนลงทะเบียน Speed dating ที่จะจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้กว่า 9,000 คน ซึ่งกิจกรรมนี้จะเป็นรูปแบบของการจัด Speed dating ที่จะเปิดประสบการณ์ในการหาคู่ที่แตกต่างไปจากเดิม ถ้าหากผู้อ่านสนใจสามารถติดตามข่าวสารและรายละเอียดของกิจกรรมได้ผ่านช่องทาง Facebook Group : ช่วยคิดหน่อย Crowdster และ Instagram : Crowdster.me
