ในปัจจุบันมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ skincare จำนวนมาก และแต่ละแบรนด์ยังออกผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ ทั้งในแง่ของคุณสมบัติ รวมไปถึงการใช้งานอีกด้วย นอกเหนือจากการใช้ skincare ที่หลากหลายแล้ว คนรุ่นใหม่จะเลือกจัด skincare routine หรือขั้นตอนการบำรุงผิวในแต่ละวัน ให้เหมาะสมกับปัญหาผิวและรสนิยมของตัวเอง โดย 2 เทรนด์การบำรุงผิวที่กำลังมาแรงในปัจจุบันคือ Skinimalism และ Sustainability
Skinimalism
การเปลี่ยนการใช้ skincare จำนวนมาก ที่ประกอบด้วยหลากหลายขั้นตอน มาเป็นการใช้ All in one skincare หรือใช้เพียงผลิตภัณฑ์เดียว การมีผลิตภัณฑ์ที่แยกใช้ตอนกลางวันและกลางคืนอย่างชัดเจนเคยได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น การแยก Day cream และ Night Cream ออกจากกัน เนื่องจาก night cream มักเป็นครีมที่มีคุณสมบัติหลักในการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว เนื้อครีมมีความหนัก ไม่เหมาะกับการใช้งานในเวลากลางวัน ส่วน Day cream เป็นครีมที่มีเนื้อบางเบากว่า หรือมีการผสมสารกันแดด เพื่อให้เหมาะกับใช้เวลาในตอนกลางวัน
แต่ในปัจจุบัน คนหันมาใช้งานผลิตภัณฑ์เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวเพียงชิ้นเดียว ที่มีลักษณะบางเบา สบายผิวกว่า สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน และช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ทำให้ไม่ต้องซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแยกหลายตัว
Sustainability
เทรนด์การเลือกใช้ Skincare ที่มีความเป็นมิตรกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกจากบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ ย่อยสลายง่าย หรือเป็นแบบรีฟิล และเลือก Skincare ที่มีส่วนประกอบที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติน้อยที่สุด เช่น เลือกที่ส่วนประกอบออร์แกนิก ไม่มีสารเคมีที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิตเป็นส่วนประกอบ หรือเลือก skincare ที่เป็น non-cruelty หรือไม่มีการทดสอบในสัตว์
จากการเก็บข้อมูลเรื่องการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวผ่าน Crowdabout Online Panel กว่า 3,000 คนพบว่า คนกว่า 50% ไม่ได้มีการใช้ Skincare ที่มีส่วนประกอบออร์แกนิกในปัจจุบัน แต่มีความสนใจที่จะหามาทดลองใช้ ตามมาด้วยผู้ที่มีการใช้ Skincare ที่มีส่วนประกอบออร์แกนิกในปัจจุบัน คิดเป็นสัดส่วนกว่า 39% มีคนเพียง 11% เท่านั้นที่ไม่มีความสนใจใน Skincare ที่มีส่วนประกอบออร์แกนิก
โดย Skincare ที่ได้รับความนิยมและมีการใช้งานมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ เซรั่ม โทนเนอร์ และ เอสเซนส์ ตามลำดับ ซึ่งถือเป็น Skincare พื้นฐานสำหรับการบำรุงผิว และสามารถใช้ได้ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน
นอกจากนี้ การสำรวจยังพบว่า ปัญหาที่ผิวที่คนไทยมีปัญหามากที่สุด 3 อันดับแรกคือ ปัญหาเรื่องฝ้า กระ จุดด่างดำ ปัญหาเรื่องความหมองคล้ำไม่กระจ่างใส และปัญหาเรื่องริ้วรอย ตามลำดับ และคนส่วนใหญ่มีการซื้อ Skincare ที่มีสรรพคุณในการแก้ไขปัญหาผิวเหล่านี้โดยเฉพาะ
ช่องทางในการซื้อ Skincare ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ร้านค้าปลีกด้านสุขภาพและความงาม เช่น Watsons และ Boots ซึ่งในปัจจุบันมีสาขาอยู่เยอะ มีสินค้า และมีแบรนด์ให้เลือกหลากหลาย รวมถึงสินค้าบางชิ้นมี Tester ให้ลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อดูก่อนว่าเนื้อ สี กลิ่น ถูกใจหรือไม่ ใช้แล้วมีอาการแพ้หรือไม่ และสามารถเชื่อมั่นได้ว่า สินค้าที่วางขายอยู่ในร้านดังกล่าวเป็นของแท้ ไม่ต้องกังวลเรื่องสินค้าเลียนแบบซึ่งพบได้ทั่วไปตามร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ หากไม่ใช่ร้าน Official
การบำรุงผิวเป็นสิ่งที่คนทุกเพศทุกวัยให้ความสำคัญและให้ความสนใจในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเปลี่ยนไปมากจากก่อนหน้านี้ที่คนมองว่าสินค้ากลุ่มนี้เป็นสำหรับผู้หญิงเท่านั้น ส่งผลให้สินค้ากลุ่มนี้มีความเป็นกลางทางเพศ (Gender-Neutral) มากขึ้น โดยเทรนด์การใช้ Skincare ในปัจจุบันคือ คนหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ได้ในทุกช่วงเวลาไม่จำกัดเฉพาะกลางวัน หรือกลางคืน โดย Skincare ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันคือ เซรั่ม โทนเนอร์ และเอสเซนส์ ตามลำดับ
อีกปัจจัยที่คนให้ความสำคัญในการเลือกซื้อ Skincare คือ บรรจุภัณฑ์และส่วนประกอบ เนื่องจากในปัจจุบันคนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่มีแบรนด์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ และผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติ ออร์แกนิก และไม่มีสารเคมีปนเปื้อน ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต