Brand Identity เป็นสิ่งสำคัญในสายตาผู้บริโภค ไม่ว่าคุณกำลังเริ่มต้นธุรกิจใหม่ หรือกำลังจะรีแบรนด์ของตัวเองให้ดีขึ้น การทำความเข้าใจผลกระทบของสีต่อพฤติกรรมผู้บริโภค หรือที่เรียกว่า จิตวิทยาของสี จะช่วยให้แบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
จากการวิจัยพบว่าว่าผู้บริโภคมากถึง 85% เชื่อว่าสีเป็นแรงจูงใจที่สำคัญที่สุดในการเลือกผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่ง ในขณะที่ 92% ยอมรับว่ารูปลักษณ์ภายนอกเป็นปัจจัยทางการตลาดที่โน้มน้าวใจมากที่สุด ข้อมูลจาก www.colorcom.com เพราะฉะนั้นการเลือกสีให้สวยงาม ฉลาดเหมาะกับแบรนด์ของคุณจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ความหมายของแต่ละสีที่ใช้กันเป็นสากล
สีแดง สื่อถึง ความอันตราย ความตื่นเต้น และพลังงาน เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสีของความรักและความหลงใหล
สีชมพู สื่อถึง อารมณ์อ่อนไหวและความโรแมนติก เฉดสีต่างๆ เช่น ชมพูร้อน อาจดูอ่อนเยาว์และโดดเด่น
สีส้ม สื่อถึง ความสดใสและเต็มไปด้วยพลัง ความคิดสร้างสรรค์ ผจญภัย และเกี่ยวข้องกับความคุ้มค่า
สีเหลือง สื่อถึง ความขี้เล่นและมีความสุข
สีเขียว สื่อถึง ธรรมชาติ มักใช้เพื่อแสดงถึงความยั่งยืน แต่ก็สามารถสอดคล้องกับศักดิ์ศรีและความมั่งคั่งได้
สีฟ้า/น้ำเงิน สื่อถึง ความน่าเชื่อถือและเชื่อถือได้ ความสงบ หรือบางครั้งมักเกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้า
สีม่วง สื่อถึง จิตวิญญาณและความลึกลับ องอาจ สง่าผ่าเผย ลุ่มลึก
สีน้ำตาล สื่อถึง เป็นคนตรงไปตรงมาและตรงไปตรงมา มักใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
สีขาว สื่อถึง ความบริสุทธ์ิ ความเรียบง่ายและความไร้เดียงสา มักให้ความรู้สึกมินิมอล
สีดำ สื่อถึง ความหรูหราและสง่างาม ดูเป็นทางการ
Brand Identity วิธีเลือกชุดสีให้แบรนด์ของคุณ
1. เข้าใจในเอกลักษณ์ของแบรนด์
สีทำหน้าที่สื่อความหมายเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเอกลักษณ์ของแบรนด์ควรสอดคล้องกับบุคลิก ค่านิยมและข้อความที่แบรนด์ต้องการสื่อสาร
2. สำรวจความหมายของสี
สีแม้จะเกิดจากวิทยาศาสตร์ แต่การเลือกใช้สีแต่ก็ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ที่แน่นอน และไม่มีสมการใดที่จะกำหนดได้อย่างแม่นยำว่าสีใดหมายถึงอะไร ดังความหมายของแต่ละสีที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้น ความหมายของสีเมื่ออยู่สีเดียวหรือไปจับคู่กับสีอื่นก็สามารถให้มุมมองความรู้สึกที่เปลี่ยนไปได้ เช่น สีน้ำเงินเมื่อจับคู่กับสีทอง ทำให้นึกถึงความหรูหราแต่ถ้าสีน้ำเงินเดียวกันจับคู่กับเหลือง ก็จะให้ความรู้สึกสนุกสนานมากขึ้น อาจกล่าวได้ว่าความหมายของสีขึ้นอยู่กับสีที่จับคู่ด้วย และบริบท ความหมายแฝงทางวัฒนธรรม
3. ดูสีของแบรนด์คู่แข่ง
สีของแบรนด์ควรโดดเด่นหรืออย่างน้อยก็ให้ลูกค้าสามารถจดจำได้ทันที เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของคุณมักปรากฏท่ามกลางคู่แข่งไม่ว่าจะเป็นทางออนไลน์หรือบนชั้นวาง คุณต้องมองหาช่องทางคิดให้แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ แต่ก็ต้องสื่อสารความหมาย คุณค่าของผลิตภัณฑ์คุณด้วย เช่น ถ้าคุณขายครีมกันแดดที่เน้นเรื่องความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม การใช้ สีเขียวหรือสีขาวก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจและแตกต่างจากที่หลายแบรนด์นิยมใช้สีเหลือง
4.ค้นหาแรงบันดาลใจ
ปัจจุบันมีเว็บไซต์เกี่ยวกับการออกแบบ เครื่องมือที่ช่วยคุณออกแบบสีของแบรนด์เยอะแยะและหลากหลาย ซึ่งคุณสามารถหาไอเดียสำหรับการจับคู่สีที่น่าสนใจและเฉดสีที่ชวนให้หลงใหลใน เช่น adobe ก็เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ที่นักออกแบบนิยมใช้กัน
Brand Identity นอกจากสี ต้องมีเรื่องใดอีก
ขนาด รูปร่าง ฟอนต์ และรายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเป็นปัจจัยในการสร้างแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น การนำรูปร่างหรือลักษณะของสินค้ามาทำเป็นตัวอักษรของชื่อแบรนด์ PEZ การบริการตรงต่อเวลาที่นำมาเป็นการดีไซน์การเว้นช่องว่างระหว่างตัวอักษรของแบรนด์ FedEx
รูปร่างวงกลมหรือวงรี ให้ความรู้สึกในเชิงบวก รู้สึกถึงความเป็นผู้หญิง สื่อถึงมิตรภาพ ความเป็นชุมชน ความรัก ความสัมพันธ์ และความกลมเกลียว ขณะเดียวกันรูปทรงสามและสี่เหลี่ยม ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแรง ความเชี่ยวชาญ สื่อถึงพลัง ศาสนา กฎหมาย ความน่าเชื่อถือ และมีการพิสูจน์ได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์
หวังว่าไอเดียเรื่องสีที่เรานำมาฝากกันจะช่วยเป็นแนวทางในการออกแบบและสื่อสารแบรนด์ของธุรกิจคุณ ให้สามารถเป็นที่จดใจและถูกใจโดยลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
เรื่องน่ารู้ของการใช้สีเพื่อสร้าง Brand Identity
- สีที่มองเห็นได้มากที่สุด คือ สีเหลือง
- สีที่อ่านง่ายที่สุด คือ สีดำบนพื้นเหลือง และสีเขียวบนพื้นขาว ตามด้วยสีแดงบนพื้นขาว
- สีดำบนพื้นขาวเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการอ่าน ทั้งบนกระดาษและบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
- สีโทนร้อน อย่างสีแดง สีส้ม และสีเหลือง จะมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น และมีแนวโน้มที่จะทำให้วัตถุดูใหญ่ขึ้นและใกล้ขึ้น ทำให้สร้างการโฟกัสได้มากขึ้น ทั้งยังเป็นสีที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้น
- สีโทนเย็น อย่างสีม่วง สีน้ำเงิน และสีเขียว จะทำให้มองเห็นลดลง และมักจะทำให้วัตถุดูเล็กลงและอยู่ไกลออกไป สร้างการโฟกัสได้น้อยลง ส่งต่อให้รู้สึกสงบ เพิ่มสมาธิ
- สีที่ไม่ใช่สีหลักจะให้ความรู้สึกสงบกว่าสีหลัก
- สีฟ้าเป็นสีหลักที่สงบเงียบที่สุด รองลงมาคือสีแดงโทนอ่อน
- ห้องสีฟ้าจะทำให้ ผู้สอบได้คะแนนสูงกว่า และนักยกน้ำหนักยกได้มากกว่า
- ข้อความสีน้ำเงินช่วยเพิ่มระยะเวลาในการอ่านได้นานขึ้น
- สีเหลืองทำให้รู้สึกเบิกบาน บ้านที่มีขอบสีเหลืองหรือดอกไม้สีเหลืองขายได้เร็วกว่า
- สีแดงและส้ม กระตุ้นให้ผู้คนเข้ามารับประทานอาหารอย่างรวดเร็วและออกไป สีแดงยังทำให้อาหารน่าดึงดูดยิ่งขึ้นและชักจูงให้คนกินมากขึ้น (ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดมักใช้สีเหล่านี้เสมอ)