fbpx
Apr 5, 2023 • BY Crowdabout Editor
เริ่มต้นธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ: 3 สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเปิดตัว
แนวทางการเริ่มธุรกิจ

การ เริ่มต้นธุรกิจ เป็นความฝันของใครหลายคน แต่การทำให้ธุรกิจอยู่รอด ไม่ใช่เรื่องง่าย มีเพียง 5% ของธุรกิจเกิดใหม่ ที่อยู่รอดในตลาด ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเปิดตัวสินค้าและบริการ ควรเตรียมตัวให้ดี เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ

1. เริ่มต้นธุรกิจ ต้องลงมือทำ ไม่ใช่แค่คิด!

ธุรกิจจะไม่มีวันเกิดขึ้น หากคุณไม่เริ่มต้น คนส่วนใหญ่มักติดอยู่กับการคิดแต่ไม่ลงมือทำ วิธีที่ช่วยให้ก้าวข้ามจุดนี้คือ 3 สิ่งนี้

1.1 ตั้งเป้าหมายธุรกิจที่ชัดเจน

คุณต้องแน่ใจว่า ธุรกิจของคุณมีความหมาย กับชีวิตมากพอ เพราะหากไม่มีแรงขับเคลื่อน คุณอาจล้มเลิกได้ง่ายๆ คำถามสำคัญที่ควรถามตัวเอง ได้แก่

แนวทางสร้างจุดขายให้ธุรกิจเหนือคู่แข่ง
  • Experience: ต้องการมีประสบการณ์อะไร เช่น เป็นเจ้าของรถหรู มีบ้าน 100 ล้านบาท
  • Growth: อยากเติบโตเป็น เจ้าของธุรกิจชั้นนำ หรือไม่?
  • Contribution: อยากแบ่งปันอะไรให้กับสังคม เช่น ให้ความรู้ด้านธุรกิจ หรือสนับสนุนสิ่งแวดล้อม

หากคุณตอบคำถามเหล่านี้ได้ แสดงว่าคุณพร้อมเริ่มต้นธุรกิจอย่างแท้จริง

1.2 ทำธุรกิจให้สำเร็จ ต้องมีความสม่ำเสมอ

การ เริ่มต้นธุรกิจ ไม่ได้จบแค่การมีไอเดีย แต่ต้อง ลงมือทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจเกิดขึ้นจริง

วิธีสร้างวินัยและความต่อเนื่องให้ธุรกิจของคุณ

  • กำหนดเวลา 10-15 นาทีต่อวัน เพื่อพัฒนาไอเดียธุรกิจ เช่น
    • เขียนแผนธุรกิจแบบสั้นๆ
    • ศึกษาคู่แข่งหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
    • ลองสร้างโพสต์ขายสินค้า หรือออกแบบโปรไฟล์ร้าน
  • เลิกผัดวันประกันพรุ่ง โดยเริ่มจากสิ่งที่ไม่อยากทำก่อน เช่น
    • กลัวการขายสินค้า? → ลองขายกับเพื่อนหรือครอบครัว
    • ไม่ถนัดทำบัญชี? → ใช้ซอฟต์แวร์ช่วยจัดการ
  • กำหนดเป้าหมายระยะสั้น เพื่อให้เห็นความคืบหน้า
    • เป้าหมาย 1 สัปดาห์: ศึกษากลุ่มเป้าหมายและคู่แข่ง
    • เป้าหมาย 1 เดือน: ทดลองขายสินค้าให้เพื่อนหรือครอบครัว
    • เป้าหมาย 3 เดือน: เปิดช่องทางขายออนไลน์

เมื่อทำสิ่งเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ การเริ่มต้นธุรกิจจะไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป!

1.3 เอาชนะความกลัว แล้วเริ่มต้นธุรกิจของคุณ

ความกลัวเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้หลายคนไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจ นี่คือวิธีเอาชนะความกลัวในการเริ่มธุรกิจ

  • วิเคราะห์ความเสี่ยง – อะไรคือสิ่งที่แย่ที่สุดที่อาจเกิดขึ้น?
    • ถ้าธุรกิจไม่เวิร์ค คุณจะเสียอะไรบ้าง? เงิน เวลา หรือโอกาส?
    • มีวิธีลดความเสี่ยงไหม เช่น การเริ่มจากธุรกิจเล็กๆ ก่อน
    • ถ้าสินค้าไม่ขายได้ จะมีแผนสำรองอะไร เช่น โปรโมชันหรือลองปรับปรุงสินค้า
  • หาข้อมูลเพิ่มเติม – อะไรที่คุณยังไม่รู้แต่สำคัญต่อธุรกิจ?
    • ถ้ากลัวไม่มีลูกค้า คุณหาข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายเพียงพอหรือยัง?
    • ถ้ายังไม่เข้าใจตลาด ศึกษาคู่แข่งแล้วหรือยัง?
    • ถ้ายังไม่มีทุนมากพอ รู้จักวิธีหาเงินทุนหรือเริ่มจากต้นทุนต่ำได้หรือไม่?
  • เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย – ถ้าไม่ทำตอนนี้จะเสียโอกาสอะไรบ้าง?
    • ถ้าไม่เริ่มตอนนี้ คุณอาจเสียโอกาสที่ตลาดกำลังโต
    • หากคุณรอจน “พร้อมที่สุด” อาจไม่มีวันได้เริ่มเลย
    • การเริ่มช้ากว่าคู่แข่ง อาจทำให้เสียเปรียบในการสร้างแบรนด์

ความกลัวไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าคุณ ยอมรับมัน และเรียนรู้วิธีรับมือ มันจะกลายเป็นพลังที่ช่วยให้คุณกล้าลงมือทำ


2.  พิจารณาว่าสินค้าหรือบริการของคุณพร้อมหรือยัง

การเปิดตัวธุรกิจ โดยไม่วางแผนให้ดี อาจทำให้ ธุรกิจล้มเหลว ก่อนเปิดตัวสินค้า ตรวจสอบว่าคุณมีปัจจัยเหล่านี้หรือไม่

6 สิ่งที่ต้องรู้ก่อน เริ่มต้นธุรกิจ และปล่อยสินค้าสู่ตลาด
  • มีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน – ใครจะซื้อสินค้าของคุณ? พวกเขามีปัญหาอะไรที่ธุรกิจของคุณช่วยแก้ได้?
  • มีช่องทางขายที่เหมาะสม – ขายผ่านช่องทางไหน เช่น ออนไลน์ ออฟไลน์ หรือผสมผสานกัน?
  • มีจุดขายที่แตกต่าง (USP) – ทำไมลูกค้าต้องเลือกคุณแทนคู่แข่ง?
  • มี Know-how หรือความได้เปรียบ – คุณมีเทคโนโลยี กระบวนการ หรือความเชี่ยวชาญที่คู่แข่งไม่มีหรือไม่?
  • มี Supplier – มีแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้หรือไม่?
  • คุณเป็นลูกค้ากลุ่มแรกได้ไหม? – ถ้าคุณเองยังไม่มั่นใจในสินค้า แล้วลูกค้าจะมั่นใจได้อย่างไร?

หากยังไม่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน อาจต้องปรับปรุงแผนธุรกิจก่อนนำสินค้าออกสู่ตลาด


3. วิเคราะห์คู่แข่งและลูกค้าของคุณ

การ ทำธุรกิจให้สำเร็จ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสินค้าดีอย่างเดียว แต่ต้องเข้าใจตลาด โดยเฉพาะ คู่แข่งและพฤติกรรมลูกค้า

การวิเคราะห์ลูกค้าและคู่แข่งก่อนเริ่มต้นธุรกิจ

3.1 Competitor Research
คุณควรวิเคราะห์ทั้งคู่แข่งทางตรง (Direct Competitor) เพื่อดูว่าสินค้าของคุณกำลังแข่งกับใครในตลาด และคู่แข่งทางอ้อม (Indirect Competitor) เพื่อดูว่าสินค้าทดแทนในตลาดมีอะไรบ้าง โดยสิ่งที่คุณควรรู้จากการวิเคราะห์คู่แข่งคือ

  • คู่แข่งขายอะไร ราคาเท่าไหร่
  • ของคู่แข่งดียังไง อะไรคือจุดเด่นแต่ละแบรนด์
  • ที่ขายดี ขายดีเพราะอะไร

3.2 Customer Research คุณจำเป็นต้องวิเคราะห์ลูกค้าของคุณเพื่อหาว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร โดยวิเคราะห์จากอายุ รายได้ หรือไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย โดยสิ่งที่คุณควรรู้จากการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าของคุณคือ

  • คนกลุ่มนี้ต้องการสินค้าหรือบริการนั้นเพื่ออะไร
  • ปกติซื้อแบรนด์ไหน
  • ถ้าไม่ซื้อสินค้านี้ แล้วใช้อะไรแทน
  • มีวิธีเลือกสินค้ายังไง อะไรคือปัจจัยเลือกหลัก

บทความนี้ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการเตรียมตัวและวางแผนอย่างรอบคอบก่อนเริ่มธุรกิจใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการทำธุรกิจและยังช่วยเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จมากขึ้น

ต้องการคำแนะนำ กลยุทธ์หรือทีมช่วยวิเคราะห์ปัญหา
หาทางแก้ไขเพื่อต่อยอดพัฒนาธุรกิจของคุณ

LINE : @Crowdabout

Phone : 097-364-6592

Tag: Business EcosystemBusiness Owner

Crowdabout Editor