ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิง ในปัจจุบันถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มากลำพังมูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์ความงามเพียงอย่างเดียวมีมูลค่าสูงถึง 8 หมื่นล้านบาทและมีการเติบโตสูงขึ้นทุกปี มีผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิงออกใหม่มากมายหลายประเภท คุณสมบัติ และรูปแบบการใช้งาน ผู้บริโภคจึงมักเจอกับสถานการณ์ “Paradox of Choice” หรือ “การมีตัวเลือกมากเกินไป” การจะทำให้ผลิตภัณฑ์ขายได้ในสถานการณ์แบบนี้ จึงจำเป็นต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความตรงใจผู้บริโภค และต้องวางกลยุทธ์การตลาดให้โดดเด่นออกมาจากเหล่าสินค้าคู่แข่งในตลาดที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นการทำวิจัยตลาดและวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก การวิจัยตลาด (Market research) และการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายโดยใช้แบบสอบถาม (Customer survey) เป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาหรือเริ่มผลิตสินค้า รวมไปถึงการทำการตลาดกับสินค้าต่าง ๆ ในตลาดใดตลาดหนึ่ง เนื่องจากจำเป็นจะต้องมีข้อมูลสนับสนุน เพื่อให้สามารถวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสมและเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จ สำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลางก็เช่นกัน การทำการวิจัยตลาดอย่างถูกวิธีจะช่วยให้สามารถเข้าใจสถานการณ์ภายในตลาด ทำให้เข้าถึงและเข้าใจลูกค้าได้เป็นอย่างดีผ่านการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าปัจจุบันหรือกลุ่มที่คาดหวังให้มาเป็นลูกค้าในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิง เนื่องจากผู้หญิงจะไม่ค่อยมี Brand Loyalty กล่าวคือความสนใจและความชอบจะเปลี่ยนไปตามกระแสและเทรนด์ ทำให้แบรนด์หรือสินค้าที่มีการซื้อซํ้าคือสินค้าที่รู้ใจผู้บริโภคในระดับหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากพฤติกรรมการบริโภคของผู้ชายที่มักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่แล้วซํ้า ๆ โดยไม่คำนึงถึงแบรนด์ ดังนั้นกระบวนการเหล่านี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิง เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เข้าใจปัญหาของผู้บริโภค ช่วยให้สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์และทำการตลาดได้อย่างเหมาะสม และนี่คือ 3 เหตุผลที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ความงามจำเป็นต้องทำการวิจัยตลาด 1. ช่วยธุรกิจในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตรงกับกลุ่มลูกค้ายิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาบ้างแล้ว จะรู้ว่าความเป็นไปได้ที่เราจะออกผลิตภัณฑ์แรก แล้วผู้บริโภคชอบเลย…
Category Archives: Blog
รู้หรือไม่ว่า instagram มีฟีเจอร์ในการทำ Instagram Marketing อยู่มากมาย บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับฟีเจอร์เหล่านี้ และวิธีใช้ของมัน
บทความนี้จะแนะนำเคล็ดลับการแบ่งสัดส่วนบุคลิก 60-40 ให้ Brand Personality มีความน่าสนใจและแตกต่างจากคู่แข่ง
ปัจจุบันนี้นักการตลาดจำเป็นต้องมีวิธีต่อรองกับข้อมูลและเชื่อมต่อกับลูกค้าให้อย่างง่ายดาย เทคโนโลยีทางการตลาด หรือ Martech สามารถตอบโจทย์ได้
การสำรวจตลาด (Market Survey) คือการวิจัยเชิงสำรวจและการวิเคราะห์ตลาดสำหรับสินค้าและบริการ รวมถึงการวิเคราะห์ผู้บริโภค เช่น การสำรวจคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน และการสำรวจความนิยมของผู้บริโภค การรวบรวมข้อมูลสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ การทำแบบสำรวจ การสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง หรือการสังเกตผู้บริโภคจากสถานการณ์จริง การทำแบบสำรวจผ่านทางช่องทางออนไลน์ (Online Survey) เป็นวิธีเก็บข้อมูลหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะมีความสะดวกรวดเร็ว ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ โดยเครื่องมือสำหรับการทำ Online Survey ในปัจจุบันนั้นมีหลากหลาย มีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันไป ผู้วิจัยจึงต้องรู้จักและเลือกใช้ให้เหมาะสม วันนี้ Crowdabout นำตัวอย่าง 4 ระบบในการทำ Survey ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันมาให้รู้จัก Google Forms ถือเป็นเครื่องมือยอดฮิตที่สุดของการทำแบบสอบถามออนไลน์ เพราะเริ่มต้นใช้ค่อนข้างง่าย และไม่มีค่าใช้จ่าย แค่มี Google Account หรือ Gmail ก็สามารถสร้าง แล้วเปิดใช้งานได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาไม่ถึง 15 นาที (แต่ถ้าใครไม่มี Gmail อาจต้องเสียเวลาสมัคร Account ใหม่เกิน 15 นาทีก่อน!) ฟีเจอร์ที่สำคัญของ Google…
จากประสบการณ์ที่เราร่วมทำ Marketing Research กับนักวิจัยและบริษัทต่าง ๆ มา นี่คือ 10 สิ่งที่นักวิจัยมักทำพลาดโดยไม่รู้ตัว ทั้งในแง่ของการวิจัยการตลาด ที่พลาดเพราะตัวผู้วิจัยเองหรือปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องก็ตาม โดยหลายๆคน มักคิดว่าเป็นเรื่องเล็กที่ไม่น่าส่งผลกระทบกับการวิจัยมากนัก แต่แท้จริงแล้วกลับส่งผลกระทบต่อการวิจัยไม่น้อยเลย จนอาจทำให้ผลลัพธ์ที่ได้นั้นผิดพลาดจนไม่สามารถสรุปผล หรือไม่สามารถนำมาใช้งานใดๆได้อีก 1. เลือกกลุ่มตัวอย่างที่ไม่ใช่ หากเราเริ่มต้นด้วยการไปถามคำถามผิดคน หรือผิดกลุ่มเป้าหมาย คำตอบที่ได้ก็ถือว่าฟาวล์ ดังนั้นจึงควรมีการกำหนดเกณฑ์ในการคัดเลือกที่ชัดเจนในการกรองคนเข้ากลุ่มตัวอย่าง เช่น อายุ อาชีพ ภูมิลำเนา พฤติกรรมการใช้จ่าย หรืออื่น ๆ ตามเงื่อนไขของการวิจัย แล้วเลือกเฉพาะกลุ่มคนที่ใช่มาเป็นกลุ่มตัวอย่างเท่านั้นโดยไม่มีการผ่อนปรนใด ๆ 2. คำถาม วิจัยการตลาด ที่กำกวม ในการทำ Marketing Research นั้น หากคำถามที่ใช้ขาดความชัดเจน แฝงด้วยอคติหรือความหมายที่คลุมเครือ จะนำไปสู่การตีความที่กว้างเกินไปในขั้นตอนการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล และอาจะทำให้ผลออกมาผิดพลาดได้ ตัวอย่างคำถามที่กำกวม เช่น การถามแบบกว้าง ๆ เช่น คำถาม “สนใจในผลิตภัณฑ์นี้หรือไม่” คนตอบส่วนใหญ่จะตอบว่าสนใจ แต่อาจไม่ได้แปลว่าสนใจซื้อเพียงอย่างเดียว อาจหมายถึงสนใจทราบข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มากขึ้นก็ได้…