Services

ปลดล็อกศักยภาพธุรกิจ ด้วย Insights จากผู้บริโภคจริง

กว่า 200,000 คน

Customer Insights

บริการรับทำ Customer Insight ครบวงจร เพิ่มยอดขายด้วยการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง

Brand Health Check

รับทำ Brand Audit และวิเคราะห์ แบรนด์เพื่อธุรกิจของคุณ

Growth Hacking

วางกลยุทธ์ Growth Strategy และวิเคราะห์ SWOT เพื่อธุรกิจของคุณ

Feasibility Study

รับทำ Feasibility Study บริการทดสอบ ผลิตภัณฑ์ก่อนลงตลาด

Product Testing

รับทำ Product Test บริการทดสอบ ผลิตภัณฑ์ก่อนลงตลาด

Business Idea Validation

ทดสอบไอเดียธุรกิจก่อนลงทุนช่วยคุณให้ ประสบความสำเร็จแบบไม่ต้องคาดเดาผลลัพธ์

Resources

Special topics written from

Our team’s experience

Latest Insights

บริการรับทำ Customer Insight ครบวงจร เพิ่มยอดขายด้วยการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง

Project Showcase

บริการรับทำ Customer Insight ครบวงจร เพิ่มยอดขายด้วยการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง

ต้องยอมรับเลยว่าธุรกิจที่มาเเรงเเซงทางโค้งในขณะนี้คงไม่พ้นธุรกิจ Beauty Product หรือธุรกิจผลิตภัณฑ์ความงามที่มีเเนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะตลาดสกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ดูเเลผิวก็เป็นหนึ่งใน Beauty Product ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงเป็นอันดับต้น ๆ เเละเเน่นอนว่าต้องมีการเเข่งขันทางการตลาดสูงเพราะบริษัทใหญ่ ๆ นั้นก็มีจุดเเข็งมากมายยากที่จะเอาชนะได้

หนึ่งในการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่เป็นที่นิยม ที่สามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาทดลองใช้สินค้าได้ก็คงจะหนีไม่พ้น การใช้พรีเซนเตอร์ที่เป็นดาราเข้ามาทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เเล้วถ้าเราเป็นเเบรนด์เล็ก ๆ จะทำอย่างไร? เพราะอาจไม่มีทุนมากพอที่จะไปจ้างดาราดังมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้เเบรนด์

วันนี้ #Crowdabout ลองเอาวิธีการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักเเละขายดี โดยไม่ต้องใช้ซุปตาร์สักคนมานำเสนอค่ะ

1. สื่อสารที่ตัวผลิตภัณฑ์ โดยเน้นที่คุณสมบัติพิเศษสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่ม

หากมีผลิตภัณฑ์หนึ่งอย่างที่เกิดขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้เราโดยเฉพาะได้ คงยากที่เราจะไม่จดจำแบรนด์และแนะนำบอกต่อ การเจาะที่คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์แล้วสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มลูกค้า ที่น่าจะมีปัญหาผิวที่ผลิตภัณฑ์ของเราจะสามารถเข้าไปช่วยแก้ปัญหาให้เขาได้ เป็นหนึ่งในการทำ Personalize Marketing ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก เพราะในทางปฏิบัติแล้วจะสามารถสร้างได้ Brand Awareness ที่เฉียบคมและเข้าถึงกลุ่มบุคคลย่อยได้ละเอียดลึก มากกว่าการใช้ Mass Media ในการสร้าง Brand Awareness ด้วยวิธียอดฮิตอย่างการจ้างซุปตาร์

ดังนั้นธุรกิจจึงควรทำวิจัยตลาดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ตามโจทย์ของลูกค้า แล้วสื่อสารแบรนด์ผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับกลุ่มนั้น ๆ เราจะทำสกินเเคร์หรือผลิตภัณฑ์ดี ๆ ไปเพื่อใคร ถ้าเรายังไม่รู้จักตัวลูกค้าที่เขาต้องการจะซื้อ แล้วทำอย่างไรที่จะทำให้เรารู้ว่าลูกค้าคนนั้นเขาต้องการอะไรจากสินค้าของเรา ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการทำ Market Research ที่จะช่วยให้เจ้าของเเบรนด์รู้ถึงปัญหาของลูกค้าว่า เเต่ละช่วงอายุมีปัญหาผิวแบบไหนโดยถามจากกลุ่มตัวอย่างเป้าหมาย 

วิธีนี้จะช่วยให้เรานำข้อมูลที่ได้ไปปรับใช้ เเละสามารถผลิตสินค้าตรงใจกับลูกค้าเเละถ้าสินค้าของเราดีจริง ผู้ใช้จริงก็จะออกมารีวิวหรือบอกปากต่อปาก ซึ่งนี่เป็นวิธีที่จริงใจเเละได้ผลมากที่สุดของการขายสินค้า โดยที่ไม่ต้องใช้ดาราหรือเสียเงินจ้างพรีเซนเตอร์ที่อาจจะไม่ได้ใช้สินค้าของเราจริง

2. สร้างลูกค้าต้นแบบ (Persona) ของแต่ละผลิตภัณฑ์แล้วสื่อสารด้วยบุคคลที่มีบุคลิกส่วนตัวตามต้นแบบนั้น

ต้องยอมรับว่าการสื่อสารการตลาดที่ทรงพลังและสามารถทำให้เข้าถึงผู้คนได้ง่าย สำหรับผลิตภัณฑ์ในหมวดสกินเเคร์ ก็คือการใช้บุคคลในการนำเสนอ ซึ่งถ้าหากธุรกิจที่ไม่มีงบเพียงพอในการใช้พรีเซนเตอร์ระดับซุปตาร์ ก็สามารถใช้คนธรรมดา ๆ ที่มีบุคลิกหน้าตาดีมีคาแร็กเตอร์ที่ตรงกับ Persona ของแต่ละผลิตภัณฑ์ได้ 

ซึ่งจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงบุคลิกของพรีเซนเตอร์กับตัวตนของลูกค้าที่มีความตรงกัน มีปัญหาเรื่องผิวที่ใกล้เคียงกัน ต้องการการแก้ปัญหาด้วยผลิตภัณฑ์แบบเดียวกัน เกิดการจดจำแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่ไม่แพ้ซุปตาร์ดังได้เลยทีเดียว

ตลาดธุรกิจสกินแคร์ในปัจจุบันได้เปลี่ยนไปพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็กหรือใหญ่ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน การใช้พรีเซนเตอร์อาจไม่ใช่สูตรสำเร็จทั้งหมดอีกต่อไป มีหลากหลายเเบรนด์ที่ประสบความสำเร็จได้โดยการรู้จักลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายที่ลึกซึ้งเเละมีการสื่อสารการตลาดที่ตรงกลุ่ม

Beauty Product

ข้อเสียของการใช้ซุปตาร์ในการโปรโมทสินค้าหรือแบรนด์ Beauty Product

1. ชื่อเสีย (ง) ที่ไม่สามารถควบคุมได้

คนดังสามารถประพฤติตัวไม่ดีได้ และการกระทำของพวกเขาอาจกลายเป็นตัวแทนของแบรนด์ได้เช่นกัน เมื่อธุรกิจหรือแบรนด์ตัดสินใจเลือกพรีเซนเตอร์หรือแม้แต่การจ้างซุปตาร์มาถ่ายโฆษณาสินค้าหรือบริการของคุณ นั่นหมายความว่าคุณฝากชื่อเสียงของคุณไว้กับตัวตนของซุปตาร์ที่คุณจ้างมา ซึ่งจะถือว่าเป็นโชคดีของคุณก็ได้หากซุปตาร์คนนั้นไม่เคยและ (หวังว่า) จะไม่มีชื่อเสียงด้านลบใด ๆ แต่หลายครั้งหลายคราที่มันอาจไม่เป็นอย่างที่คุณคิดเสมอไป แต่มันก็เป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ หากซุปตาร์ที่คุณจ้างเกิดไปพัวพันกับข่าวในแง่ลบ จนอาจทำให้กระทบกับภาพลักษณ์และยอดขายของธุรกิจคุณได้

ยกตัวอย่าง Subway ที่มีอัตราการเติบโตสูงจนน่าประทับใจในตลาดโลก ด้วยการดึงเอา Jared Fogle ที่สามารถลดน้ำหนักลงได้ด้วยการกินแซนวิชของแบรนด์ทุกวัน ทำให้ Subway ขายภาพลักษณ์การเป็นอาหารเพื่อสุขภาพได้ แต่แล้ว Jared Fogle ก็เกิดคดีที่ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดิ่งลงเหวโดยไม่มีสิ่งไหนช่วยได้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการมีภาพลามกอนาจารของเด็กไว้ในครอบครอง และแม้ว่าทางแบรนด์จะออกมาเคลื่อนไหวอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนจะไม่สามารถควบคุมยอดขายที่ตกลงได้เลย

2. แพงเกินไป แถมคนอาจจะจำได้แค่ซุปตาร์

รัศมีของคนดังสามารถบดบังชื่อเสียงของแบรนด์ได้ เพราะความนิยมของซุปตาร์นั้นมักจะมีฐานแฟนคลับ ธุรกิจและแบรนด์อาจจะหวังว่าเพื่อการดึงแฟนคลับของซุปตาร์ มาซื้อสินค้าหรือบริการของตัวเองได้บ้าง ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่ก็สุ่มเสี่ยงเช่นกัน โดยเฉพาะกรณีที่ซุปตาร์คนนั้น ๆ เป็นคนที่อยู่ในกระแส รับเป็นพรีเซนเตอร์หลายแบรนด์พร้อม ๆ กันแล้วด้วยละก็ แทนที่คนทั่วไปจะจำแบรนด์ของคุณได้ สิ่งที่คนจะจำได้ คือการเห็นหน้าของซุปตาร์บ่อยขึ้นเท่านั้น แต่อาจจะจำแบรนด์ที่เขาทำงานด้วยไม่ได้เลยก็เป็นได้ นอกจากนี้การตัดสินใจจ้างซุปตาร์อันดับหนึ่ง หรือ Top 5 ของวงการ อาจจะกลายเป็นค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เสียเปล่าไปเลยก็เป็นได้ เนื่องจากการเป็นพรีเซนเตอร์หรือแม้แต่แบรนด์แอมบาสเดอร์นั้น ไม่ได้ระบุหรือมีการรับประกันที่ชัดเจนว่ายอดขายหรือการจดจำแบรนด์จะดีขึ้นอย่างที่เราแบรนด์คาดหวังไว้

3. การเลือกซุปตาร์ที่จะมาร่วมมือกับแบรนด์ก็ไม่ใช่เรื่อง่าย

ต้องมีการกำหนดฐานแฟนคลับเหมือนกันกับการวิจัยหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ถูกต้อง Steve Olenski ตั้งข้อสังเกตสำหรับ Forbes ว่าการโฆษณาของเหล่าคนดังซุปตาร์ทั้งหลาย จะมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อซุปตาร์คนนั้น ๆ กำลังโปรโมตสินค้าหรือบริการไปยังกลุ่มเป้าหมายที่มีความคล้ายคลึงกับภาพลักษณ์ของพวกเขา การใช้ใครสักคนเพื่อนำเสนอสิ่งที่ไม่น่าสนใจสำหรับผู้ชมของพวกเขาเป็นการเสียเวลาและเงินไปเปล่า ๆ

ยกตัวอย่างเช่น คุณจะไม่เห็น เลอบรอน เจมส์ โปรโมทสินค้าความงามหรือแม้กระทั่งเมคอัพ แม้ว่าเขาเป็นหนึ่งในคนดังที่ดังที่สุดในโลก และสินค้านั้น ๆ จะผลิตมาเพื่อกลุ่มเป้าหมายที่มีคาแรกเตอร์แบบตัวเขาเองก็ตาม เพราะเมื่อใดที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น การตลาดคนดังอาจจะได้ผลระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่มากพอจนถือได้ว่าประสบความสำเร็จมากเพียงพอกับทรัพยากรที่ลงแรงและใช้จ่ายไป

สำหรับธุรกิจสกินแคร์ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็กหรือใหญ่ สามารถให้ Crowdabout เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณได้มีโอกาสรู้จักลูกค้ามากขึ้น และช่วยสร้างลูกค้าต้นแบบเพื่อนำไปใช้ในการวางกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดต่อไป

ข้อมูลบางส่วนจาก brandongaille

ต้องการคำแนะนำ กลยุทธ์หรือทีมช่วยวิเคราะห์ปัญหา
หาทางแก้ไขเพื่อต่อยอดพัฒนาธุรกิจของคุณ

Phone : 097-364-6592