สงกรานต์เป็นหนึ่งเทศกาลหยุดยาวที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด – 19 วันสงกรานต์เป็นเทศกาลที่ครึกครื้น ผู้คนมักเดินทางกลับบ้าน ไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือสังสรรค์ในเมืองตามพื้นที่ยอดฮิตต่าง ๆ สงกรานต์จึงมักเป็นช่วงเวลาทองของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย โควิด – 19 ในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ประเทศไทยห่างหายจากเทศกาลสงกรานต์มาพักใหญ่ ทำให้สงกรานต์ในปี 2566 นี้เป็นเทศกาลที่ทั้งคนไทย และต่างชาติรอคอยมาหลายปี และธุรกิจต่างคาดหวังว่าช่วงเวลาทองของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจะกลับมาอีกครั้ง
สงกรานต์ยังเป็นเทศกาลโปรดของคนไทยอยู่
จากการเก็บข้อมูลผ่าน Crowdabout Online Panel จากคน 1,000 คน พบว่า คนส่วนใหญ่ยังมีความรู้สึกต่อเทศกาลสงกรานต์ค่อนไปทางบวก โดยมีคนเพียง 5% เท่านั้นที่ไม่ชอบและไม่อยากมีส่วนร่วมในเทศกาลนี้ แต่ดูเหมือนว่าคนจะชอบเทศกาลนี้เพียงเพราะเป็นช่วงที่จะได้หยุดยาว แต่ไม่ได้สนใจในกิจกรรมการเล่นน้ำสงกรานต์เท่าใดนัก
โดย 3 อันดับกิจกรรมยอดฮิตในสงกรานต์ปีนี้คือ การพักผ่อนอยู่ที่บ้าน จากการสำรวจพบว่ามีคนที่ไม่มีแพลนออกไปไหนมากถึง 57% ตามด้วยการไปทำบุญที่วัด 35% และไปเที่ยวต่างจังหวัด 33% โดยมีเพียง 25% เท่านั้นที่มีแพลนจะออกไปเล่นน้ำตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดย 2 สาเหตุหลักที่ทำให้ผู้คนไม่ออกจากบ้านในช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้คือ อากาศร้อนเกินไป และคนเยอะ มีความวุ่นวาย 2 สาเหตุนี้มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน อยู่ที่ 51% และ 44 % ตามลำดับ
กรุงเทพไม่ใช่จุดหมายหลักในการเล่นสงกรานต์ จากการสำรวจพบว่า มีคนมากถึง 49% ที่ไม่เคยเล่นสงกรานต์ที่กรุงเทพ
สถานที่ยอดฮิตที่คนมีแนวโน้มจะไปในปีนี้คือ ถนนข้าวสาร ถนนสีลม สยามสแควร์ และเซ็นทรัลเวิล์ด ตามลำดับ และหัวเมืองในต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ พัทยา เป็นต้น
สิ่งที่คนกลุ่มนี้ขาดไม่ได้คือ item สำหรับเก็บของมีค่าในช่วงสงกรานต์ โดย 2 items ยอดฮิตที่ขาดไม่ได้ คือ ซองกันน้ำและกระเป๋ากันน้ำ ในสัดส่วน 92% และ 78% ตามลำดับ ทำให้เห็นว่าสินค้าที่สามารถกันน้ำได้ พกพาง่าย และมีความแข็งแรง ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของผู้คน
อีกหนึ่ง item ที่ขาดไม่ได้ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้คือ ครีมกันแดด จากการสำรวจพบว่า ครีมกันแดดแบรนด์ฮิตคือ Nivea, Banana Boat และ Bioré ในสัดส่วน 23%, 18% และ 14% ตามลำดับ
สงกรานต์ เทศกาลแห่งการล่วงละเมิดทางเพศ
จากการเก็บข้อมูลพบว่า 14% ของคนที่เลือกที่จะอยู่บ้านในช่วงสงกรานต์นี้เพราะกลัวโดนล่วงละเมิดทางเพศ (Sexual harassment)
โดยพบว่าเพศที่มีประสบการณ์โดนล่วงละเมิดฯ มากที่สุดคือกลุ่ม LGBTQ+ หรือกลุ่มเพศทางเลือก โดยมีสัดส่วนผู้ที่เคยโดนสูงถึง 31% ในขณะที่เพศชายและหญิงมีสัดส่วนผู้ที่เคยโดนล่วงละเมิดฯ เท่ากัน ที่ 28% และคนส่วนใหญ่มองว่า สถานที่ๆปลอดภัยจากการโดนล่วงละเมิดมากที่สุด คือบ้าน และวัด แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายคนที่มองว่า ไม่มีที่ไหนที่เป็นพื้นที่ปลอดภัย เนื่องจากสามารถเจอผู้ที่ประสงค์ร้ายหรือมีความต้องการคุกคามได้ทุกที่ แม้แต่ในละแวกบ้านของตนเอง