แอปดูหนังและซีรีส์(Movie streaming platfotm) คือบริการที่ปรับตัวมาจากร้านเช่า VDO ในอดีต แต่ด้วยยุคสมัย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้ร้านออฟไลน์แบบในอดีตได้ปรับตัวมาอยู่ในช่องทางออนไลน์
แอปดูหนังและซีรีส์(Movie streaming platform) ได้เข้ามาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในช่วงปี 2015 หมายความว่าคนไทยเรียนรู้และเริ่มคุ้นชินการใช้บริการแอปดูหนังและซีรีส์มา 6-7 ปีแล้ว
จากการสำรวจพฤติกรรมการดูหนังและซีรีส์ผ่านแอปดูหนังต่างๆ ของผู้บริโภคในกลุ่ม Gen Z – Gen Y (อายุ 18 – 40 ปี) จำนวน 1,500 คนทั่วประเทศไทยพบว่า แอปดูหนังและซีรีส์(Movie streaming platfotm) ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 คือ Youtube ตามมาด้วย Netflix เป็นอันดับ 2 VIU และ IQIY เป็นอันดับ 3 ซึ่งมีผู้บริโภค 50% ที่ใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมงขึ้นไปใน 1 วันกับการดูหนังหรือซีรีส์
กิจกรรมยอดนิยมอันดับ 1 ที่ผู้บริโภคมักจะทำควบคู่ไปกับการดูหนังหรือซีรีส์คือการทานข้าว ผู้บริโภค 88% มักจะทานข้าวในขณะที่ดูหนังหรือซีรีส์
ผู้บริโภคส่วนมากจะนิยมเลือกใช้รูปแบบการรับบริการเป็นบัญชีส่วนตัว รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง คิดเป็น 64% แชร์บัญชีกับคนรู้จักเพื่อนหรือคนในครอบครัว 30% และอีก 7% เป็นการใช้บัญชีแบบแชร์กับคนไม่รู้จัก
ซึ่งค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ผู้บริโภคจ่ายในแต่ละเดือนเพื่อใช้บริการ Streaming latform ส่วนมากจะอยู่ที่ราคา 100-200 บาท คิดเป็น 66% รองลงมาคือ 200-300 บาท คิดเป็น 22% และ 300-400 บาท 6% โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้เป็นการคิดโดยเฉลี่ยรวมกันทุก Platform หากผู้บริโภคมีการใช้บริการแอปดูหนังหลาย Platform
ในช่วง 2-3 ปีหลังคนไทยคุ้นชินกับการใช้บริการแอปดูหนังและซีรีส์(Movie streaming platfotm) มากขึ้นซึ่งโดยส่วนมากแล้วจะนิยมดูซีรีส์หรือหนังในขณะที่ทานข้าว ผู้บริโภคในไทยส่วนมากยินดีจ่ายเงินเพื่อสื่อความบันเทิงและยินดีจะใช้บริการมากกว่า 1 Platform แม้ว่าจะต้องเสียเงินหาก Platform นั้นมีรูปแบบของสื่อที่ต้องการ ส่งผลให้ตลาด Movie treaming เกิดการเติบโตและแข่งขันเพิ่มมากขึ้น